โรค Asperger’s Syndrome สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่

Asperger’s Syndrome เป็นกลุ่มอาการอันเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Autistic โดยโรคนี้จะแสดงออกถึงปัญหาทางด้านพฤติกรรม พัฒนาการทางด้านต่างๆ และพฤติกรรมแปลกอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้าย Autistic การแสดงออกถึงโรค ในผู้ป่วยแต่ละคน สามารถมีความแตกต่างได้อย่างหลากหลาย ทั้งทาง การแสดงออก รวมทั้งความรุนแรงของปัญหา ถึงแม้ว่าผู้ป่วย 2 คนจะได้รับการวินิจฉัยโรคเหมือนกัน แต่อาการแสดงและความสามารถทางทักษะของแต่ละคน มีความแตกต่างกันได้
อาการแสดงของ Asperger’s Syndrome มักจะเริ่มฉายแววออกมาในเด็กอายุประมาณ 3 ขวบ แต่กว่าจะมีอาการต่างๆที่แสดงออกอย่างชัดเจนจนวินิจฉัยได้ ก็จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 5-9 ปี
อาการของ Asperger’s Syndrome มีดังนี้คือ
• ไม่ชอบเข้าสังคม
• ชอบพูดเรื่องซ้ำๆ ด้วยคำพูดเหมือนเดิม
• ไม่ค่อยมีไหวพริบ ในเรื่องธรรมดาทั่วๆไป
• มักมีปัญหากับทักษะทางด้าน การอ่าน , คณิตศาสตร์ , การเขียน
• ชอบหมกมุ่นกับเรื่องบางอย่าง หรือสนใจสิ่งที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก เช่น ดาราศาสตร์ , วงจรไฟฟ้า หรือดนตรีคลาสสิก เป็นต้น
• ทักษะที่ใช้ในการพูด อยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ เด็กที่เป็น Asperger’s Syndrome จะรู้จักคำศัพท์ต่างๆได้มาก รวมทั้ง พูดได้ถูกหลักไวยากรณ์ แต่ในการสื่อความหมายในเรื่องที่พูดนั้น จะไม่เหมือนเด็กปกติ
• ทักษะทางด้านอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับภาษาพูด อยู่ในเกณฑ์ปกติ
• มีการเคลื่อนไหวของร่างกายแบบงุ่มง่าม , ไม่คล่องตัว
• พูดจาโพงพาง ไม่ค่อยมีมารยาท เมื่อเข้าสังคม
การรักษา Asperger’s Syndrome
ในปัจจุบันนี้ ยังไม่มียาชนิดใดใช้รักษาอาการ Asperger’s Syndrome ให้หายเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า เด็กส่วนใหญ่ที่เป็น Asperger’s Syndrome เมื่อได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องอย่างเร็วที่สุด และให้ความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ , ทางโรงเรียน เพื่อช่วยในการปรับตัว และปรับพฤติกรรมของเด็ก จากวิธีเหล่านี้สามารถช่วยให้เด็ก อยู่ร่วมกับสังคมปกติ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และได้รับประสบความสำเร็จในชีวิตได้ดีเหมือนคนปกติ จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางด้านปัญหาพัฒนาการของเด็ก ต่างมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าให้ความช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ ตั้งแต่ในช่วงแรกๆของการเกิดโรค จะทำให้เด็กปรับตัวเข้าสู่สังคมได้ง่ายขึ้น เนื่องจากยังเป็นช่วงที่สมองมีการพัฒนาได้ค่อนข้างสูง พูดง่ายๆ คือยิ่งรู้เร็วก็ยิ่งรักษาได้ไวขึ้นนั่นเอง
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็ช่วยเหลือให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านสังคมได้ดีขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้เด็กเรียนรู้ รวมทั้งใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติ การดูแลรักษา Asperger’s Syndrome ใช้วิธีเดียวกับผู้ที่เป็น Autistic คือ มุ่งแก้ไขในด้านที่เป็นปัญหา ผสมผสานไปกับการส่งเสริมในด้านความสามารถของเด็กนั่นเอง