สาเหตุเบื้องต้นที่ก่อให้เกิด แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม

โรค ‘Asperger’s Disorder’ จัดเป็นโรคที่มาจากความไม่สมบูรณ์แบบ ในรูปแบบหนึ่งซึ่งมีรูปแบบเฉพาะตัว อยู่ในกลุ่มเดียวกับโรค ‘Autistic Disorder’ หากแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง และเป็นเวลายาวนานกว่า 70 กว่าปีแล้ว ที่มีการรายงานว่าพบผู้ป่วยโรคนี้ โดยในปี ค.ศ.1934 นายแพทย์นาม ‘Hans Asperger’ กุมารแพทย์ชาวออสเตรีย จดบันทึกถึงเด็กเข้าสังคมลำบาก , หมกมุ่นชอบทำอะไรซ้ำๆไปซ้ำมา , พูดเก่งมาก และฉลาดมากด้วย หากแต่หลังจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น งานนี้จึงเงียบหายไปจนกระทั่งนักวิจัยรุ่นหลังนำมาศึกษาอีกครั้ง ‘Asperger’s Disorder’ เกิดมาจากสาเหตุอะไร ? เกิดจากการทำงานบางตำแหน่งของสมองที่ผิดปกติไป แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าอะไร ทำให้สมองทำงานผิดปกติไป ถึงแม้ว่าจะมีงานวิจัยออกมาหลายชิ้นก็ตาม หากแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานปรากฏยืนยันออกมาอย่างชัดเจน หาแต่อย่างก็ไรตามผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อาจเกิดมาจากความบกพร่องของพันธุกรรมต่างๆ ซึ่งค่อยๆ สะสมความผิดปกติมาจากบรรพบุรุษและปรากฏออกมาในรุ่นหนึ่ง สังเกตพฤติกรรมของเด็กที่เป็น ‘Asperger’s Disorder’ เด็กที่เป็น ‘Asperger’s Disorder’ จะแสดงอาการตั้งแต่อายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น หากแต่อาการจะปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อมีอายุ 5-9 ขวบ โดยโรคนี้ไม่ได้แสดงออกมาทางลักษณะภายนอก…

Continue Reading

วิธีการสังเกตพฤติกรรมของเด็กที่เป็นออทิสติกเทียม

คำว่าผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย จิตใจ หรือ พฤติกรรมพ่อแม่ทุกคนย่อมไม่ต้องการให้เกิดกับลูกตัวเองอย่างแน่นอนไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง วิธีการเลี้ยงดูจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก พ่อแม่เองนอกจากเลี้ยงดูแล้วยังต้องคอยสังเกตพฤติกรรมอยู่ตลอดเวลาด้วยเพื่อรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูก อาการออทิสติกเป็นความผิดปกติที่ถูกพูดถึงกันมากสำหรับการเลี้ยงลูกยุคนี้ อาการกลุ่มนี้มีทั้งออทิสติกเทียมด้วย พฤติกรรมใดที่ส่งสัญญาณไปถึงอาการดังกล่าวบ้าง เราจะมาบอกให้สังเกตกัน ขาดการโต้ตอบที่ดี อาการออทิสติกเทียม มักจะมีพฤติกรรมที่ส่งสัญญาณอยู่เป็นระยะๆ พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามไป พฤติกรรมแรกที่สังเกตได้อย่างง่ายเลยก็คือ ขาดการโต้ตอบที่ดี เด็กจะไม่โต้ตอบต่อพ่อแม่หรือสิ่งเร้ารอบตัวแบบผิดสังเกต ตัวอย่างพฤติกรรมดังกล่าวก็มี ไม่สบตาเวลาพูดคุยอะไรด้วย (มองไปทางอื่น สายตาลอกแลก) สองไม่ตอบสนองต่อเสียง แสง สีที่อยู่ใกล้ตัว (ไม่มีท่าทีตกใจ สนใจ) สามไม่สนใจคนรอบข้าง แม้จะเรียกก็ไม่หัน (ถึงแม้ว่าจะรู้ตัวว่าชื่ออะไรแล้วก็ตาม) สี่ไม่สนใจที่จะแสดงความรักต่อพ่อแม่ (ไม่ยอมให้อุ้ม กอด หอมแก้ม เล่นด้วยกัน) ติดโทรศัพท์ หนึ่งในพฤติกรรมที่ต้องบอกว่ามันคือปัญหาระดับชาติเลยก็คือ อาการติดโทรศัพท์ตรงนี้ส่งผลต่อการเป็นออทิสติคเทียมโดยตรงกล่าวคือ หากเด็กมีความต้องการโทรศัพท์ตลอดเวลา เวลาไม่ได้เล่นโทรศัพท์ก็จะอาละวาด โวยวาย โมโหร้าย ร้องไห้ฟูมฟาย หรืออาการหนักมากจะระบายออกมาด้วยการทำลายข้าวของเสียหาย ทุบตีทำร้ายคนในบ้าน ถ้าเป็นแบบนี้บอกเลยว่าหาหมอด่วนเลย แสดงออกไม่เป็น จากพฤติกรรมติดโทรศัพท์ ติดโทรทัศน์มากเกินไป ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ทำให้เด็กไม่สามารถแสดงออกได้อย่างถูกต้อง เริ่มตั้งแต่บางคนยังไม่สามารถพูดได้แม้ว่าจะถึงวัยพูดแล้วก็ตาม ยังอ้อแอ้ไม่เป็นภาษาอยู่ บางคนก็ไม่สามารถแสดงอาการ ความต้องการของตัวเองขึ้นมาได้…

Continue Reading

อัจฉริยะมักเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ จริงหรือไม่

ความเป็นอัจฉริยภาพนั้นหลายคนอยากจะเป็น อยากจะมีความสามารถอย่างนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าการเป็นอัจฉริยะขนาดนั้นอาจจะมีสิ่งที่ต้องสูญเสียไป อย่าง ไอน์สไตน์ เองเรารู้กันว่า เค้าคือนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก อีกมุมหนึ่งเค้าก็มองว่า ไอน์สไตน์เองก็มีความผิดปกติเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ด้วย ถามว่าอัจฉริยะมักเป็นโรคนี้จริงหรือไม่ เรามาวิเคราะห์กัน โรคแอสเพอร์เกอร์ไม่มีผลต่อการเรียนรู้ ก่อนอื่นเราต้องมาเข้าใจพื้นฐานของโรคแอสเพอร์เกอร์ก่อนว่า แม้ว่าโรคนี้จะมีความผิดปกติจริง มีผลต่อตัวเด็กจริง แต่มันเป็นผลด้านพัฒนาการทางสังคมเท่านั้น การเข้าสังคม การเล่นกับเด็กวัยเดียวกัน การตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างคนเป็นโรคนี้จะทำได้ไม่ดี หรือ ทำได้ทิศทางตรงข้าม โรคนี้ไม่ได้มีผลต่อการเรียนรู้แต่อย่างใด ดังนั้นคนเป็นโรคนี้ก็ไม่ได้กระทบต่อความเป็นอัจฉริยะสักเท่าไร สนใจสิ่งใดแต่เพียงอย่างเดียว เคล็ดลับสำคัญของการเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ จนทำให้อาจจะกลายเป็นอัจฉริยะได้นั่นก็คือ เด็กที่เป็นโรคนี้มักจะไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัวเลย(เค้ามีปัญหาด้านสังคม เลยเมินเฉยสังคม) แต่กลับให้ความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากแทน มากจนเรียกได้ว่าอยู่ในทุกลมหายใจได้เลย การสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียวนี่แหละเป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสำเร็จเพื่อเดินขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของอัจฉริยะ อย่างไอน์สไตน์เอง ความฉลาดของเค้าทำให้คนในยุคนั้นไม่สามารถตามได้ทัน อีกทั้งเค้าก็ไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ด้วย บวกกับไม่ชอบเค้าสังคมอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้เค้าหมกมุ่นคิดค้นเรื่องราวทฤษฏีของเค้าไปได้เรื่อยๆ จนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของความเป็นอัจฉริยภาพดังกล่าว ไม่มีสังคม ไม่มีความกดดัน การมีปัญหาทางด้านสังคมของโรคแอสเพอร์เกอร์นั้น หากมองว่าเป็นปัญหาก็เป็นปัญหาจริง แต่หากมองอีกมุมหนึ่งการมีปัญหาทางด้านสังคมก็ทำให้อัจฉริยะหลายคนที่มีโรคนี้ประกอบด้วยนั้น ขาดความกดดัน ขาดกรอบแนวคิดจะมาครอบเค้าไว้อีกที เมื่อไม่มีการฉุดรั้ง ไม่มีกรอบ ทำให้แนวคิดของเค้าออกเดินทางไปได้ไกลสุดขอบจักรวาล ลองนึกภาพ ไอน์สไตน์ คิดทฤษฏีเรื่องราวเกี่ยวกับหลุมดำบนห้วงอวกาศ จากนั้นเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็หัวเราะ หาว่าบ้า ไอน์สไตน์ อาจจะเชื่อเพื่อน…

Continue Reading

Asperger ภัยเงียบที่อันตรายของเด็ก

การเลี้ยงดูเด็กเล็กนอกจากจะต้องเสริมเรื่องของอาหาร โภชนาการเพื่อให้มีความสมส่วนตามวัย การสังเกตพัฒนาการของลูกน้อยก็สำคัญเช่นกัน เนื่องจากพัฒนาช้าบางอย่างแม้จะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่หากไม่รีบพาไปพบแพทย์ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ โรค Asperger แอสเพอร์เกอร์ ก็เป็นหนึ่งพฤติกรรมปัญหาด้านพัฒนาการเช่นกัน มารู้จักกัน ต้นกำเนิดของโรค งานวิจัยด้านพัฒนาการช้าของเด็กเล็กจริงๆมีมานาน โรคแอสเพอร์เกอร์ เองก็เช่นกัน มีการวิจัยโรคนี้มานานแต่พอเกิดสงครามโลกงานวิจัยดังกล่าวจึงถูกเก็บไว้ จนกระทั่งยุคหลังสงครามได้มีนักวิจัยหยิบงานวิจัยโรคนี้ขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โรคนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 1934 นายแพทย์ ฮานส์ แอสเพอร์เกอร์ กุมารแพทย์ชาวออสเตรีย เป็นผู้วิจัยงานนี้จึงเรียกโรคนี้ตามชื่อดังกล่าว ลักษณะของโรคแอสเพอร์เกอร์ คุณพ่อ คุณแม่ต้องอ่านบรรทัดต่อจากนี้ให้ดีเลย เราต้องทำความเข้าใจโรคนี้กันสักหน่อย หากนิยามลักษณะของโรคนี้เค้าบอกไว้ว่า เด็กเป็นโรคนี้จะมีลักษณะเด่นคือ เข้าสังคมลำบาก พวกเค้าเหมือนจะไม่เข้าใจว่าต้องทำอะไร คุยอะไร มีท่าทางอย่างไรเวลาอยู่กับคนวัยเดียวกัน สองพวกเค้าจะมีความหมกมุ่น อยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก เรียกได้ว่าเป็นลมหายใจของพวกเค้าเลยก็ว่าได้ เรื่องสนใจจะเป็นเรื่องยากอย่าง แผนที่ประเทศ โลโก้ เป็นต้น สามจะพฤติกรรมทำซ้ำเรื่องใดเรื่องหนึ่งติดต่อกัน เช่น พูดเรื่องเดิมของตัวเองด้วยคำพูดเดิม ประโยคเดิม ซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด เป็นต้น ความอันตรายของโรคแอสเพอร์เกอร์ โรคนี้จัดว่าอันตรายมากทีเดียว ประการแรกการสังเกตโรคนี้ทำได้ยากมาก ยิ่งพ่อแม่มือใหม่ยิ่งแยกได้ยากเข้าไปอีกทางการแพทย์ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด กว่าจะมาพบหมอเพื่อปรึกษาด้านพัฒนาการแก้ไขของโรคดังกล่าวก็ปรากฏจนแก้ได้ยาก สองโรคนี้ยังไม่มียารักษาเป็นทางการ สามโรคนี้เป็นปัญหาด้านพฤติกรรมการเข้าสังคม นั่นทำให้เวลาพาเด็กออกไปข้างนอกอาจจะทำให้เกิดปัญหาบางอย่างได้ พ่อแม่ต้องควบคุมตลอดเวลาพร้อมทั้งให้คำอธิบายเพื่อแก้ไขพฤติกรรม หากโชคร้ายโรคนี้อาจจะซ้อนทับด้วยสมาธิสั้น…

Continue Reading

สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกอาจเป็นโรค Asperger’s Syndrome

Asperger’s Syndrome เป็นโรคระบบประสาทผิดปกติ อยู่ในกลุ่มเดียวกับออทิสติก โรคนี้ถูกประกาศออกมาครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1940 โดยนายแพทย์ Hans Asperger กุมารแพทย์ชาวออสเตรีย พบว่าคนไข้ของเขา ส่วนมากแล้วเป็นเด็กผู้ชายซึ่งมีความฉลาด มีสติปัญญาปกติ แต่กลับมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม มีพฤติกรรมหมกมุ่น ชอบทำอะไรเดิมๆ ไม่รู้ว่าจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างไร ทั้งที่ตัวเองพูดคุยได้ปกติ ในปัจจุบันนี้พบอัตราผู้ป่วยที่จะเป็นโรค Asperger’s Syndrome ร่วมกับโรคออทิสติก รวมทั้งโรคอันเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางประสาทอื่น ๆ ทั่วโลกประมาณ 1 ต่อ 1,000 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นมาก Asperger’s Syndrome เกิดจากอะไร Asperger’s Syndrome เกิดจากการทำงานของสมองผิดปกติ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่า มีสาเหตุมาจากอะไร ถึงแม้จะมีงานวิจัยออกมาหลายชิ้นก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่ในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า น่าจะเกิดจากความบกพร่องของสารพันธุกรรม แต่ก็ยังบอกไม่ได้อีกว่าเกิดจากการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่ค่อยๆ สะสมความผิดปกติมาจนแสดงออก หรือเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน แต่ก็มีอีกความเชื่อหนึ่งคือ เกิดจากสภาพแวดล้อม สุดท้ายก็ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัด เด็กที่เป็น Asperger’s Syndrome เริ่มแสดงอาการ ตั้งแต่อายุ 3…

Continue Reading

โรค Asperger’s Syndrome สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่

Asperger’s Syndrome เป็นกลุ่มอาการอันเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Autistic โดยโรคนี้จะแสดงออกถึงปัญหาทางด้านพฤติกรรม พัฒนาการทางด้านต่างๆ และพฤติกรรมแปลกอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้าย Autistic การแสดงออกถึงโรค ในผู้ป่วยแต่ละคน สามารถมีความแตกต่างได้อย่างหลากหลาย ทั้งทาง การแสดงออก รวมทั้งความรุนแรงของปัญหา ถึงแม้ว่าผู้ป่วย 2 คนจะได้รับการวินิจฉัยโรคเหมือนกัน แต่อาการแสดงและความสามารถทางทักษะของแต่ละคน มีความแตกต่างกันได้ อาการแสดงของ Asperger’s Syndrome มักจะเริ่มฉายแววออกมาในเด็กอายุประมาณ 3 ขวบ แต่กว่าจะมีอาการต่างๆที่แสดงออกอย่างชัดเจนจนวินิจฉัยได้ ก็จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 5-9 ปี อาการของ Asperger’s Syndrome มีดังนี้คือ • ไม่ชอบเข้าสังคม • ชอบพูดเรื่องซ้ำๆ ด้วยคำพูดเหมือนเดิม • ไม่ค่อยมีไหวพริบ ในเรื่องธรรมดาทั่วๆไป • มักมีปัญหากับทักษะทางด้าน การอ่าน , คณิตศาสตร์ , การเขียน • ชอบหมกมุ่นกับเรื่องบางอย่าง หรือสนใจสิ่งที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก เช่น ดาราศาสตร์…

Continue Reading

รู้จักกับ ASPIE Teens

วัยรุ่นถือเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากลองมากที่สุดวัยหนึ่ง เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พ่อแม่ทุกคนจะรู้สึกว่าลูกในช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่เลี้ยงดูยากที่สุด คำว่ายากในที่นี้หมายถึงว่าเมื่อเด็กทุกคนเริ่มย่างก้าวเข้าสู่วัยรุ่นพวกเขามักจะมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ค่อยสนใจใคร อยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อเราลองมองย้อนกลับมาถึงกลุ่มอาการโรค Asperger  กับเหล่าบรรดาวัยรุ่นก็จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้ววัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคนี้ส่วนใหญ่มีพัฒนาการป่วยที่ต่อเนื่องมาจากช่วงที่พวกเขายังเด็กนั่นเอง ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวที่สหรัฐฯ ว่า เคยมีวัยรุ่นบุกไปกราดยิงใส่คนอื่นก่อนที่จะถูกระบุว่าเป็นโรค Asperger ทั้งที่จริงๆ แล้วโรคดังกล่าวมันไม่ใช่โรคที่น่ากลัวเหมือนอย่างที่ใครคิดแม้จะเป็นวัยรุ่นในช่วงที่อยากรู้อยากลองแต่ผลสรุปของโรคนี้โดยธรรมชาติแล้วจะไม่ค่อยมีปัญหากับใครเพราะพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะของการชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวด้วยซ้ำ วัยรุ่นที่เป็นโรคนี้นอกจากจะไม่ค่อยไปรังแกใครเผลอๆ พวกเขาต่างหากที่จะเป็นฝ่ายถูกรังแก อาการของโรคในช่วงวัยรุ่นมันก็เหมือนกับอาการของโรคทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่าด้วยการที่อายุช่วงนี้เป็นอายุที่กำลังห้าวหาญทำให้หลายคนเกรงกันว่าอาจจะคิดอะไรแผลงๆ หรืออยากลองทำอะไรที่เกินกว่าสติตัวเองจะควบคุมอยู่ได้ เอาเข้าจริงๆ เด็กวัยรุ่นที่มีอาการป่วยเป็นโรค Asperger บางครั้งพวกเขากลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากกว่าที่จะไปทำอะไรรุนแรง พวกเขาไม่ชอบที่ให้ใครมามองพวกเขาว่าเป็นคนป่วย สิ่งที่สำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องทำความเข้าใจกับเด็กวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคนี้คือ ต้องพยายามทำให้เขาเข้าใจว่าเขาไม่ได้อาศัยอยู่บนโลกเพียงคนเดียว เขายังมีคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาอยู่เสมอ บอกเขาเสมอว่าอย่าให้ใครมาตัดสินความเป็นตัวตนของเขา จงให้ตัวเขาเท่านั้นเป็นคนตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง เรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกใบนี้อย่างมีความสุข ทุกสิ่งที่ทำพลาดมันไม่ได้เกิดจากตัวเขาเองทั้งหมด รวมไปถึงหากมีปัญหาก็อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น พูดง่ายๆ ก็คือ พยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เกิดขึ้นอย่าพยายามปลีกตัวเองออกจากสังคมแล้วไปอยู่ลำพังเพียงคนเดียว เพราะไม่อย่างนั้นโรค Asperger มันก็จะยิ่งทำร้ายคนในวัยนี้ได้อย่างมาก การพยายามทำให้เขามองโลกในแง่ดีรวมถึงคนที่ป่วยเองก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่จะทำให้ใช้ชีวิตอยู่ได้

Continue Reading

รู้จักกับ ASPIE Parents

โรค Asperger ถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่แม้อาจจะเกิดขึ้นได้กับเด็กเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุหลักมาจากการเกิดความบกพร่องในด้านของสมองบางส่วนที่ยังหาสาเหตุชัดเจนไม่ได้ว่าจริงๆ แล้วการเกิดโรคหรืออาการแบบนี้มาจากอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดโรคนี้ขึ้นกับคนในครอบครัวแล้วสิ่งที่ดีที่สุดคือการพยายามเอาใจใส่ ดูแล รวมไปถึงเข้าใจในความเป็นโรค Asperger ให้มากที่สุด ถึงกระนั้นแม้มันจะดูเป็นโรคที่อาจจะไม่ได้มีพิษภัยร้ายแรงแต่ในความเป็นจริงการเกิดขึ้นของมันอาจจะทำให้หลายคนต้องทำความรู้จักกับมันใหม่ก็ได้เช่นเดียวกัน ASPIE Parents ทุกคนก็อาจจะมีข้อสงสัยว่าหากแปลกันตรงๆ ตัวมันก็คือโรค Asperger ที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ ที่อ่านดูแล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ แต่ทว่ามันคือนิดของโรค Asperger ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับพ่อแม่จริง ยิ่งอ่านก็คงยิ่งเกิดความสับสนเข้าไปใหญ่แน่ๆ ว่า โรค Asperger ที่เกิดกับพ่อแม่มันเป็นได้อย่างไร คือคนที่ไม่ใช่พ่อแม่จะไม่ต้องเป็นโรคนี้ หรือ ถ้าหากเกิดจริงๆ คนไม่เป็นพ่อแม่ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ได้เกี่ยวกับคนเป็นพ่อแม่คนเสียหน่อย จริงๆ แล้วต้องเข้าใจอย่างหนึ่งก่อนว่าโรค Asperger นอกจากจะเกิดขึ้นจากระบบสมองที่ผิดปกติแล้วสิ่งแวดล้อมรอบข้างก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน นั่นหมายความว่าการที่โรค Asperger เกิดขึ้นกับพ่อแม่ได้ก็ต้องเกิดมาจากการที่พวกเขามีลูกเป็นโรค Asperger ด้วยนั่นเอง สิ่งที่พอจะสามารถจับจุดในเรื่องได้อย่างดีก็คือ การที่พ่อแม่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลูกของตัวเองป่วยเป็นโรค Asperger พวกเขาจำเป็นจะต้องศึกษาในรายละเอียดต่างๆ ของโรค บวกกับความเครียดที่เกิดขึ้นทุกอย่างมันดูลงตัวที่มีโอกาสเสี่ยงในการที่ตัวเองจะป่วยเป็นโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน ด้วยความที่การจะดูแลผู้ป่วยโรค Asperger จำเป็นจะต้องศึกษาอย่างเฉพาะเจาะจงมันอาจทำให้ตัวเองเกิดความรู้สึกภายในจิตใจที่คล้อยตามกับคนเป็น เมื่อหนักเข้ามันอาจจะกลายเป็นภาวะซึมเศร้าที่เข้าไปอยู่ในระบบประสาทของพ่อแม่เหล่านั้นจนในที่สุดตัวเองก็อาจป่วยได้ ต้องเข้าใจก่อนว่าการเป็นโรคในลักษณะที่เกิดกับระบบประสาทอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเพียงแค่สาเหตุที่มาจากความบกพร่องภายในร่างกายของคนเราอย่างเดียว สภาพแวดล้อมต่างๆ ก็มีผลที่ทำให้คนปกติคนหนึ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับประสาทได้ โรค Asperger ที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ก็สามารถเป็นไปได้เช่นเดียวกันถ้าหากว่าพวกเขาเจอสถานการณ์อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้…

Continue Reading

รู้จักกับ ASPIE Adults

โรค Asperger ใครว่าจะเกิดได้กับเด็กเพียงอย่างเดียว อย่าลืมว่าโรคในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับโรคประสาทถือว่าเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสภาวะเรื่องของการบกพร่องทางสมองเพียงอย่างเดียว โรค Asperger จึงเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ใหญ่ที่โตแล้วด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงควรที่จะต้องเรียนรู้พร้อมทั้งศึกษาในเรื่องราวของโรคๆ นี้ไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้รู้สึกว่ามันจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองได้ โรค Asperger ในผู้ใหญ่จริงๆ แล้วก็ถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่มีลักษณะอาการใกล้เคียงกับการเกิดขึ้นในเด็กเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาในการเข้าสังคมที่พวกเขามักจะไม่ค่อยอยากจะสนิทชิดเชื้อกับใครมากนัก ชอบทำอะไรคนเดียว อยู่กับตัวเองเพียงคนเดียว ทำอะไรเดิมๆ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เคยทำมาบ่อยมากแค่ไหนแล้วก็ตาม มีปัญหาในเรื่องของการคิดถึงอนาคต การคาดเดาในเรื่องต่างๆ มีปัญหาในเรื่องของทักษะการพูดจาที่จะต้องพูดอย่างเป็นทางการผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะไม่สามารถทำแบบนั้นได้ การอยู่กับสังคมหรือกลุ่มคนขนาดใหญ่คนเป็นโรคลักษณะนี้พวกเขาจะมีปัญหาในด้านของความรู้สึกภายในจิตใจที่ไม่ต้องการจะอยู่ รวมไปถึงจะเกิดความเครียดขึ้นกับตัวเองหากว่าสิ่งที่เคยปฏิบัติเป็นประจำทุกวันถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นลักษณะอื่นๆ อย่างไรก็ตามเราจะเห็นได้ว่าคนที่เป็นโรคนี้ในระดับผู้ใหญ่มันก็เหมือนมีเส้นบางๆ ที่คั่นว่าพวกเขาเป็นอัจฉริยะ เพราะบางคนที่ป่วยเป็นโรค Asperger จะมีความเฉลียวฉลาดในระดับของสติปัญหาที่สูงกว่าคนทั่วไป เวลาที่พวกเขาสนใจเรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะมุ่งมั่นทำในเรื่องนั้นๆ อย่างเต็มที่ มีความตั้งใจในการทำงานทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วง เราจะเห็นได้ว่า 2 นักวิทยาศาสตร์ของโลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และ เซอร์ไอแซค นิวตัน ก็ยังถูกวิจัยจนเชื่อว่าพวกเขาทั้งคู่ก็น่าจะป่วยเป็นโรค Asperger ด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามโรค Asperger ที่ว่านี้มันไม่ใช่โรคที่น่ากลัวหรือโรคที่รุนแรงอะไร เพียงแต่ว่าการที่เรารู้ตัวว่าคนรอบข้างเรามีความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าวก็ควรที่จะต้องทำความเข้าใจกับเขาเหล่านั้นให้มากๆ แม้ว่าโรคนี้อาจจะยังหาสาเหตุที่แท้จริงไมได้ รวมถึงยังไม่มีวิธีในการรักษาให้หายขาดแต่เรื่องกำลังใจ การมองโลกในแง่บวกเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยต่อสู้กับโรคนี้ต่อไปได้ อย่าลืมว่าคนเราสามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมได้หากเรามีความเชื่อมั่น ความตั้งใจ

Continue Reading