โรงเรียนสำหรับผู้ใหญ่

Portrait of a boy daydreaming in an elementary school class

เทคนิคการสังเกตลูกว่าเป็น Asperger Syndrome หรือไม่

Asperger Syndrome อยู่ในกลุ่มโรคพัฒนาการบกพร่องอย่างรุนแรงในเด็ก โดยอาการจะเริ่มแสดงออกตั้งแต่อายุ 3 ขวบขึ้นไป สาเหตุของการเกิดของกลุ่มอาการนี้รู้เพียงแต่ว่า เกิดจากการทำงานของสมองบางตำแหน่งผิดปกติไป แต่สาเหตุที่ว่าทำไมการทำงานของสมองถึงทำงานผิดปกตินั้น ในปัจจุบันนี้ยังหาเหตุแน่ชัดไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า เกิดความบกพร่องของสารพันธุกรรม แต่ในอีกกลุ่มเชื่อว่าเกิดจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้ง2ความคิดนี้ก็ยังเป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น ถึงแม้กลุ่มอาการ Asperger Syndrome จะถูกจัดว่าเป็นกลุ่มอาการเดียวกับ ออทิสติก แต่เด็กกลุ่มนี้สามารถช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ รูปร่างภายนอกก็เหมือนคนปกติทั่วไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากแต่จะมีอาการพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องคือพูดเรียงลำดับไม่ถูก เกลียดการเข้าสังคม เวลาพูดคุยจะไม่มองหน้าหรือสบตาผู้คน ท่าเดินแปลกๆ มีปัญหาในด้านการเรียนบางวิชา สมาธิสั้น พูดจาโผงผาง พูดไม่คิด ไม่มีคำนึงถึงมารยาท แต่เด็กที่เป็น Asperger Syndrome จะมีความอัจฉริยะในบางเรื่องที่มีความซับซ้อน เขาจะสามารถเรียนรู้ ได้จนถึงแก่น รู้ลึกรู้จริง แต่ต้องเป็นเรื่องที่เขาสนใจเองเท่านั้น

เทคนิคการสังเกตบุตรหลานของท่านว่าเป็น Asperger Syndrome หรือไม่

1. ไม่อยากไปโรงเรียน เพราะกลัวการเข้าสังคม ไม่อยากพูดคุยสุงสิงกับใคร สำหรับเด็กบางคนอาจจะเข้าสังคมแต่จะไม่พูดคุยกับเด็กคนอื่นๆเลย
2. ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ รวมทั้งไม่ยอมทำตามคำสั่งของผู้ปกครอง
3. ไม่เข้าใจคำพูดยากๆ หรือไม่ค่อยเข้าใจมุกตลก คำล้อเลียน คำผวนต่างๆ
4. มีพัฒนาการช้ากว่าวัย เช่น เขียนหนังสือช้า เรียนหนังสือได้ช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน
5. ชอบจดจ้องไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานานอาจเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่สนใจสิ่งใดรอบข้าง
6. ทำอะไรเป็นเวลาเสมอๆ เช่น ตื่นตอน 6.00น. อาบน้ำ 6.30 น. กินข้าวตอน 8.00 น. ทำซ้ำๆเหมือนเดิมทุกวัน แบบตรงเป๊ะ ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ เด็กจะมีอาการสับสน วุ่นวาย และไม่สามารถจัดการกับตัวเองได้
7. มีความผิดปกติที่แสดงออกทางร่างกายและสีหน้า เช่น จ้องมองบางสิ่งอย่างแบบจดจ่อ ทำหน้าเฉยชาต่อคนที่มาพูดด้วย
8. ประสาทสัมผัสช้า เช่น การได้ยินเสียง การรับรู้กลิ่น
9. เดินท่าทางงุ่มง่าม ท่าทางแปลกๆ
10. ชอบทำอะไรซ้ำๆ แบบคนหมกมุ่น

การดูแลรักษา

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาแบบจำเพาะให้หายขาดได้ แต่สามารถช่วยเหลือให้เขามีพัฒนาการทางด้านสังคมให้ดีขึ้นได้ สามารถช่วยให้เด็กใช้ชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้ตามปกติ โดยใช้แนวทางเดียวกับการดูแลรักษาผู้ที่เป็นออทิสติก นอกจากแนวทางการรักษาแล้ว ความรัก ความเข้าใจ ของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะทำให้เด็กที่ป่วยเป็นโรค Asperger Syndrome มีอาการดีขึ้น